เมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่เกมร็อคแมน 11 ออกวางขายใหม่ๆ หลายๆ คนอาจจะแปลกใจที่เกมนี้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเรา คนดังๆ หลายคนต่างพากันพูดถึงเกมนี้กันอย่างมากมาย ซึ่งคอเกมรุ่นใหม่อาจจะรู้สึกว่า เกมนี้มันไม่น่าจะ Hype ตรงไหน ยอดขาย(ภาคนี้)ที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้แรงอะไรมากมาย ยิ่งบางคนที่เคยเล่นเกม Mighty No. 9 ที่สร้างโดยคุณอินาฟุเนะ ผู้ให้กำเนิดร็อคแมนมาแล้ว ก็อาจจะยิ่งเฉยๆ เข้าไปใหญ่ (ถึงจริงๆ มันจะเป็นคนละเกมกัน แต่เวลาพูดถึง Mighty No. 9 ก็มักจะอ้างถึงผู้ให้กำเนิดร็อคแมนกันทุกที) มาคราวนี้ก็เลยอยากจะเล่าถึงตำนานอันแสนยาวนานของเกมซีรี่ส์นี้ ที่จะว่าไปก็มีเรื่องราวสนุกๆ อยู่ไม่น้อยทีเดียว
ร็อคแมน เป็นเกมของค่ายแคปคอม (ซึ่งสมัยนี้ ทุกคนจะรู้จักค่ายนี้จากเกมซีรี่ส์มอนฮันต์) วางจำหน่ายภาคแรกสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1987 ซึ่งในตอนนั้นแคปคอมกำลังรุ่งจากเกมตู้ชุดสตรีทไฟเตอร์(ภาคแรกนะ ไม่ใช่สตรีท 2) ทางแคปคอมก็เลยอยากหาเกมซีรี่ส์ใหม่ๆ มาแตกไลน์ความสำเร็จเพิ่มอีก ก็เลยมอบหมายให้ ฟุจิวาระ ทาคุโร่ (คนทำเกมมาไคมุระ) รับผิดชอบโปรเจคนี้ร่วมกับ อินาฟุเนะ เคย์จิ (ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานที่แคปคอมปีแรกด้วย) และทั้งสองได้ช่วยกันออกแบบจนได้แนวคิดเกมแนวแอ๊กชั่นที่มีกลไกแบบแพ้ทางกันแบบการเล่น เป่า ยิง ฉุบ เป็นโลกอนาคตที่มีตัวเอกเป็นหุ่นยนต์ ที่สามารถเอาพลังของหุ่นยนต์ตัวอื่นมาใช่ได้
ทว่าตอนที่เกมร็อคแมนภาคแรกออกมานั้น มันกลับไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แถมโดนนักวิจารณ์สับเละ เพราะใครที่เคยเล่นร็อคแมน 1 จะรู้ว่า..มันโคตรยาก ไม่มีพาสเวิร์ด แถมไม่มีเซฟเกมด้วย ต้องเล่นรวดเดียวจบ แล้วเนื้อเรื่องดันยาวอีก ฟุจิวาระและอินาฟุเนะจึงกลับมาแก้มือในภาคสอง (ซึ่งในภาคแรก ฟุจิวาระยังไม่ได้เข้ามาดูแลเกมนี้แบบเต็มตัวด้วยซ้ำ และโชคดีที่แคปคอมไม่ถอดใจเลิกทำภาคต่อไปก่อน) และได้นำจุดอ่อนของภาคแรกมาปรับปรุง มีระบบพาสเวิร์ดทำให้กลับมาเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนบอสมีเพิ่มจากหกเป็นแปดตัว ดีไซน์ที่ดูลงตัวขึ้น สวยขึ้น ทำให้ร็อคแมนสองกลายเป็นเกมระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จระดับปรากฏการณ์และกลายเป็นการปูรากฐานให้กับเกมซีรี่ส์ร็อคแมนอีกหลายภาคในอนาคต
ซึ่งเรื่องราวของร็อคแมนนั้นตามเนื้อเรื่องเกิดขึ้นในโลกอนาคตปี 200X ซึ่งเป็นยุคสมัยของหุ่นยนต์ (สมัยปี 1987 ที่เกมภาคแรกออกวางจำหน่าย ปี 200X ถือเป็นโลกอนาคตนะครับ และลือกันว่าเนื้อเรื่องของร็อคแมนภาคแรกน่าจะอยู่ในปี 2008 ด้วย เพราะ ดร.ไรท์ได้รางวัลโนเบลเรื่องหุ่นยนต์ในปี 2007 แต่ประเด็นนี้ก็ไม่มีการยืนยันจากทาง Official ออกมาอย่างเป็นทางการ) โดย“ดร.โทมัส C ไรท์” และ “ดร.อัลเบิร์ต W ไวลี่” ได้ร่วมกันพัฒนาหุ่นยนต์ไว้ใช้งานในระบบโรงงานอุตสาหกรรม และด็อกเตอร์ไรท์ ก็ได้สร้าง หุ่นยนต์ที่มีระบบ AI ระดับสูงชื่อ ร็อค (ชาย) และ โรล (หญิง) เอาไว้ช่วยงานต่างๆ ทว่าด็อกเตอร์ไวลี่นั้นกลับอิจฉาในผลงานของด็อกเตอร์ไรท์มาโดยตลอด จึงได้ทำการฝังชิพไวรัส ในหุ่นโรงงานของด็อกเตอร์ไรท์ ทำให้หุ่นเกิดการบ้าคลั่งขึ้นมา ด็อกเตอร์ไรท์จึงได้ทำการพัฒนาร็อคให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถต่อกรกับหุ่นเหล่านั้นได้ โดยติดตั้งปืนร็อคบัสเตอร์ ที่แขนขวา และมีสล็อตว่างสำหรับบรรจุชิปของหุ่นยนต์ตัวอื่นเพื่อที่จะเอาความสามารถของหุ่นตัวอื่นมาใช้ได้ จนกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของซีรี่ส์ร็อคแมนที่เรารู้จักกันดี
ซึ่งโครงหลักจริงๆ มันก็ควรมีเท่านี้แหละครับ แต่พอซีรี่ส์มันประสบความสำเร็จ ก็เลยมีการแตกไลน์เนื้อหาออกมามากมาย ตั้งแต่บลูส์ หุ่น AI ระดับสูงตัวแรกที่ ดร.ไรท์สร้างขึ้นก่อนร็อค แต่ด้วยความเข้าใจผิดบลูส์จึงหนีออกจากห้องทดลองไป และฟอร์เต้ หุ่น AI ที่ ดร.ไวลี่ สร้างขึ้นมาจากการศึกษาแบบแปลนของบลูส์อีกที โดยเนื้อหาเหล่านี้ จะค่อยๆ ถูกถ่ายทอดผ่านเกมซีรี่ส์ร็อคแมน และร็อคแมนฉบับหนังสือการ์ตูนที่มีวางจำหน่ายแทบทุกภาค และก็เขียนออกมาได้ดีมากด้วย
ร็อคแมน ได้เข้าไปวางจำหน่ายในอเมริกา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น เมก้าแมน เพราะทางอเมริกาเห็นว่า ชื่อร็อคแมนนั้นมันดูตลก เห่ย แถมยังแปลงโฉมปกเกมของร็อตแมนที่แสนน่ารักให้ดูจริงจังมากขึ้น เพราะไม่อยากให้เกมนี้ถูกมองว่าเป็นเกมเด็กๆ (ทำให้ปกเกมเมก้าแมนภาคแรก กลายเป็นปกเกมระดับตำนานอีกเกมหนึ่งไปเลย..แต่ในแง่ไหนก็คิดเอาเองนะ) ซึ่งตัวเกมทางฝั่งอเมริกาเองก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ถึงขนาดมีคอมมิคสไตล์อเมริกันออกมาขาย และมีฉบับการ์ตูนทีวีที่ไม่เกี่ยวกับทางญี่ปุ่นออกมาฉายทางโทรทัศน์ด้วย (แต่เนื้อเรื่องการ์ตูนทีวีนี่ออกมาเด็กจ๋าเลยนะ..ไหนบอกแฟนๆ ชอบแบบโหดๆไง)
ซีรี่ส์ร็อคแมน ออกวางจำหน่ายบนเครื่องแฟมิคอมถึงหกภาค จากนั้นในภาคที่ 7 จึงได้ย้ายฐานมาอยู่บนซูเปอร์แฟมิค่อม (วางจำหน่าย 24 มีนาคม 1994) ซึ่งออกมาภาคเดียว เพราะภาค 8 ก็ย้ายไปออกบนเครื่อง PS แต่จริงๆ แล้วบนเครื่อง SFC นั้นร็อคแมนได้แตกไลน์เนื้อหาออกเป็นร็อคแมน X (หรือเมก้าแมน X) ออกจำหน่ายก่อนหน้าร็อคแมน 7 ในวันที่ 17 ธันวาคม 1993 ซึ่งเนื้อเรื่องของเกมยังคงอยู่ในไทม์ไลน์เดียวกับร็อคแมนภาคหลัก แต่เป็นเหตุการณ์ในอนาคตหลังจากเนื้อเรื่องในร็อคแมนประมาณ 100 ปี (ปี 21XX) ซึ่งในยุคนั้น มนุษย์ในโลกได้อยู่ร่วมกับหุ่นยนต์และมีมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ซึ่งถูกเรียกว่าเรพลิรอยด์ (หรือ Reploid ในเวอร์ชั่นอเมริกา) ทว่าหุ่นยนต์ที่มีความคิดแข็งข้อกับมนุษย์ (ซึ่งขัดกับกฎหุ่นยนต์ของอาซิมอฟ) กลายเป็นหุ่นยนต์ที่ชั่วร้ายจะถูกเรียกว่า อิเรกกูลาร์ จึงต้องมีการสร้างหุ่นยนต์ที่คอยจัดการกับเหล่าอิเรกกูลาร์ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า อิเรกกูลาร์ฮันเตอร์ โดยตัวเอกนั้นก็คือเอ็กซ์ ซึ่งเป็นหุ่นที่ ดร.ไรท์สร้างขึ้นในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่สุดท้าย เอ็กซ์กลับถูกผนึกเอาไว้ในแคปซูลเพราะเกรงว่าเอ็กซ์จะหันมาทำร้ายมนุษย์จึงตั้งโปรแกรมให้เอ็กซ์ทำการปรับแต่งข้อมูลอยู่ในแคปซูลอยู่นานถึง 30 ปีเพื่อให้ระบบต่างๆสมบูรณ์อย่างแท้จริง ทว่าเอ็กซ์กลับหลับใหลอยู่ในแคปซูลไปนานถึง 100 ปี ก่อนที่จะถูก ดร.เคนค้นพบและปลุกขึ้นมา
ซึ่งเนื้อเรื่องของร็อคแมน X นั้นจะเข้มข้นและจริงจังกว่าร็อคแมนภาคปกติมาก ทำให้เกมนี้กลายเป็นซีรี่ส์ยอดนิยมที่ถูกสร้างมาอีกหลายภาค (ซีรี่ส์หลักมีออกมาถึง 8 ภาคบนเครื่อง PS1 และ PS2) และหลังจากนั้นก็ยังมีการแตกไลน์ออกมาเป็นร็อคแมนซีโร่ (เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในปี 22XX) บนเครื่อง Game Boy Advance และยังมีการแตกไลน์ออกมาอีกมากมายหลายภาค รวมถึงภาคที่หลุดไทม์ไลน์หลักออกไปเลยอย่าง ร็อคแมน EXE ในปี 2001 ที่ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างหุ่นยนต์แล้วแต่กล่ายเป็นการต่อสู้ในโลกออนไลน์แทน โดยตัวเกมเป็นแนว Action RPG และมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ซึ่งตัวเอกของเรื่องเป็นเด็กที่ชื่อฮิคาริ เน็ตโตะที่มีคู่หูเป็นร็อคแมน EXE ต่อสู้เพื่อปกป้องความสงบสุขของโลกไซเบอร์ โดยผลงานชุดนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนโทรทัศน์และเคยเข้ามาฉายในบ้านเราด้วย
ทว่าหลังจากปี 2005 เป็นต้นมา (ภาคสุดท้ายของร็อคแมน X และ EXE) ก็ดูเหมือนจะไม่มีร็อคแมนซีรี่ส์ใหม่ๆ ออกมาเลย ซึ่งจริงๆก็มีอยู่แหละครับ เพียงแต่มันไม่ได้ออกมาในแนวทางที่แฟนๆ ชอบกันสักเท่าไหร่ ถึงขนาดที่ทาง CAPCOM ต้องขุดเอาร็อคแมน 9 (2008) และ 10 (2010) กลับมาทำในรูปแบบกราฟฟิค 8 บิทเพื่อเอาใจแฟนๆ กันเลยทีเดียว ยิ่งตามมาด้วยข่าวการลาออกจากบริษัทแคปคอมของ อินาฟุเนะ เคนจิ ผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์ร็อคแมนในปี 2510 โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะก่อนหน้านั้นอินาฟุเนะเคยรู้สึกไม่พอใจและให้สัมภาษณ์ชนิดสับแหลกบริษัทตนเองทำนองว่าปิดกั้นนักพัฒนาสู่บอร์ดบริหาร จนกลายเป็นรอยร้าวที่นำมาสู่การลาออกจากแคปคอมที่อินาฟุเนะทำงานอยู่มานานถึง 23 ปี ซึ่งตอนนั้นถือเป็นข่าวช็อควงการเกมทีเดียว และนั่นทำให้แฟนเกมหลายคนสนับสนุนอินาฟุเนะในการออกมาทำเกมของตนเองอย่างเต็มที่ (จนกลายเป็นโปรเจคสตาร์ทอัพที่ชื่อ Mighty No. 9 ที่คนจับตามองกันทั่วโลก แต่ผลสุดท้ายเป็นยังไง หลายๆ คนก็คงเคยเล่นแล้ว เพราะเกมนี้เคยเอามาแจกให้เล่นฟรีสำหรับสมาชิก PS PLUS ด้วย)
และในที่สุด หลังจากข่าวคราวของร็อคแมนเงียบหายไปนานมาก แคปคอมก็สร้างอภิมหาเซอร์ไพร์สให้กันแฟนๆ ด้วยการเปิดตัวร็อคแมน 11 ที่คราวนี้ยังคงยึดแนวทางการเล่นแบบคลาสสิค แต่กราฟฟิคทำออกมาในรูปแบบสมัยใหม่ และถือเป็นภาคหลักอย่างเป็นทางการเพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปีของร็อคแมนซีรี่ส์ (1987-2017) ซึ่งแค่ปล่อยตัวอย่างมาแฟนๆ ก็ได้เฮกันทั่วโลกแล้ว และถึงตอนนี้ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงเคยเล่นแล้ว แม้โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าแฟนๆ ค่อนข้างจะ Hype เกมนี้กันจนเกินจริง เพราะหากดูยอดขายแล้วมันก็ไม่ได้แรงอะไรสักเท่าไหร่ คือเอาตรงๆ เลยก็คือ เกมภาคนี้ขายเด็กรุ่นใหม่ไม่ได้เลยนั่นแหละ แต่ถ้าคุณเป็นแฟนเกมซีรี่ส์นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าน่าจะไม่พลาดกันนะ
ปล.บทความนี้ เคยเขียนลงนิตยสารเซนชูเมื่อหลายปีก่อน แต่ผมเอามาเขียนปรับแก้ใหม่ และอัพเดทเนื้อหาให้เป็นปัจจุบันขึ้น เพราะตอนที่เขียนลงเซนชู ร็อคแมน 11 ยังไม่ออกเลยครับ..